ความเป็นมาและลักษณะการใช้งานพลังงาน
เครื่องเป่าพลาสติกมีการใช้งานอินดักชั่นมอเตอร์อยู่ 2 ส่วนหลักๆ คือระบบสกรูซึ่งโดยมากจะมีการใช้งานอินเวอร์เตอร์เพื่อปรับรอบอยู่แล้วทำให้เกิดการประหยัดพลังงานส่วนหนึ่ง แต่ในส่วนที่สองคือมอเตอ์ไฮดรอลิคที่มีการใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการควรหาแนวทางประหยัดพลังงานในส่วนนี้
ปัญหาของอุปกรณ์ / ระบบก่อนปรับปรุง
จากการตรวจสอบพบว่ามอเตอร์ไฮดรอลิคของเครื่องเป่าพลาสติกขนาด 50 ลิตร มีค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ 0.31 ซึ่งถือว่ายังมีการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ และใช้พลังงาน 4.46 kW/Hr. หรือ 35,323.2 kWHr/ปี คิดเป็น 115,153.6 บาท/ปี โดยโรงงานจะมีเครื่องเป่าพลาสติกรุ่นนี้จำนวน 4 เครื่อง
รูปแสดง เครื่องเป่าพลาสติกขนาด 50 ลิตร
การแสดง ค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าของมอเตอร์ไฮดรอลิก ขนาด 22 kW
เนื่องกลุ่มที่ปรึกษามีแนวคิดที่จะประหยัดพลังงานในส่วนของมอเตอร์ไฮดรอลิค โดยมีการทดสอบก่อนติดตั้งจริง ซึงมีขั้นตอนดำเนินการดั้งนี้
- ตรวจวัดค่าการใช้พลังงานของเครื่องเป่าพลาสติก
- ติดตั้งทดสอบอุปกรณ์ประหยัดพลังงานกับมอเตอร์ไฮดรอลิคของเครื่อง เพื่อคำนวณหาจุดคุ้มทุน
- นำเสนอผู้บริหารเพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุน
สภาพหลังปรับปรุง
รูปแสดง การติดตั้งทดสอบอุปกรณ์ควบคุมภาระการใช้งานขอมอเตอร์ไฮดรอลิคเครื่องเป่าพลาสติก
วิธีการคำนวณผลการอนุรักษ์พลังงาน
กราฟแสดง ค่าพลังงานของมอเตอร์ไฮดรอลิกขนาด 22 kW เปรียบเทียบก่อนและหลังติดตั้ง
การใช้พลังงานก่อนปรับปรุง
กราฟแสดง ค่าพลังงานของมอเตอร์ไฮดรอลิกขนาด 22 kW ก่อนติดตั้ง
= 4.46 kW
ค่ากำลังไฟฟ้าเฉลี่ยก่อนการปรับปรุง 4 เครื่อง
= 17.84 kW
= (17.84 x 24 x 330 )
= 141,292.80 kWh/ปี
การใช้พลังงานหลังปรับปรุง
กราฟแสดง ค่าพลังงานของมอเตอร์ไฮดรอลิกขนาด 22 kW หลังติดตั้ง
= 3.86 kW
ค่ากำลังไฟฟ้าเฉลี่ยก่อนการปรับปรุง 4 เครื่อง
= 15.44 kW
= (15.44 x 24 x 330 )
= 122,284.80 kWh/ปี
ผลประหยัดพลังงาน
พลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดได้
= 19,008 kWh/ปี
อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วยของโรงงาน
= 3.26 บาท/kWh
คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้
= (19,008 x 3.26)
= 61,966.08 บาท/ปี
เทียบเท่าตันน้ำมันดิบ
= (19,008 x 0.00008521)
= 1.620 toe/ปี
ผมขอรายละเอียดได้ไหมคับ ติดตั้งทดสอบอุปกรณ์ประหยัดพลังงานกับมอเตอร์ไฮดรอลิคของเครื่อง อุปกรณืที่ว่านี้ มีอะไรบ้างคับ
ตอบลบ